กด Like ให้กำลังใจบ้างนะครับ

 

วันเสาร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2556

[MN-HD 720p] War Of The Dead : ฝ่าดงนรกกองทัพซอมบี้ [พากย์ไทย 5.1+อังกฤษ 5.1]-[บรรยายไทย+อังกฤษ]


เรื่องย่อ

เมื่อกลุ่มทหารพรานของสหรัฐอเมริกาและฟินแลนด์ หลงเข้าไปในป่าลึกซึ่งเป็นเขตแดนของรัสเซีย
แต่พวกเขากับเจอสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน การเอาตัวรอดและหนีตายครั้งนี้จะเป็นอย่างไรต้องติดต าม!!!

สตีเว่น ซีกัล [MN-HD] True Justice Blood Alley 2012 คนดุรวมพลเดือด [เสียง ไทย-อังกฤษ][บรรยาย ไทย-อังกฤษ][3.55GB]


เรื่องย่อ

หลังจากหันหลังให้ราชการ เอไลจาห์ เคน (สตีเว่น ซีกัล) กลับมาร่วมงานกับรัฐบาลอีกครั้งกับเจ้าหน้าที่ CIA มาร์คัส มิทเชล (เอเดรียน โฮล์มส) ซึ่งสัญญากับเคนว่าจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่ทำลายทีมงานเก่าของเคน และในการจัดการกับเป้าหมายสำคัญที่แม้แต่ CIA ก็ยังไม่อาจลงมือสำเร็จได้ เคนได้เกณฑ์สายลับอีก 3 รายเพื่อก่อตั้งเป็นทีมใหม่ของเขาโดยเฉพาะ



วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

[MN-HD] Ted (2012) : หมีไม่แอ๊บ แสบได้อีก [1080p][เสียงอังกฤษ - ไทย][บทบรรยายไทย - อังกฤษ]


เรื่องย่อ

จากทีมผู้สร้าง Family Guy ผู้กำกับ เซธ แมคฟาร์เลนได้นำอารมณ์ขันที่เกินจินตนาการของเขามาสร้างเป็นภาพยนตร์ ที่เขาควบหน้าที่ทั้งเขียนบท กำกับ และให้เสียงพากย์ตัวหมีเท็ดดี้สุดป่วนที่ชื่อว่า “เท็ด” ในภาพยนตร์แนวคอมเมดี้ผสมซีจีแอนิเมทเรื่องนี้ เขาจะนำเอาเรื่องราวของหนุ่มหล่อล่ำ จอห์น เบนเนท (นำแสดงโดย มาร์ค วอลห์เบิร์ก) ที่เจอภาวะจิตป่วนจากเจ้าตุ๊กตาหมีเท็ดดี้ ที่เป็นเพื่อนรักสมัยเด็ก แต่ดันมาพูดได้เหมือนคน ด้วยผลของคำอธิษฐานจากตอนเด็กๆ และนี่คือต้นเหตุของความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในชีวิตของเขา ทั้งเรื่องรัก เรื่องงาน และอีกสารพัดเรื่อง

[MN-HD] Rise of the Guardians (2012) ห้าเทพผู้พิทักษ์ [1080p][เสียงไทย อังกฤษ][บรรยาย ไทย อังกฤษ]


เรื่องย่อ

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเบื้องหลังตำนานซานตาคลอส (อเล็ค บัลด์วิน) กระต่ายอีสเตอร์ (ฮิวจ์ แจ็คแมน) นางฟ้าฟันน้ำนม (อิสลา ฟิชเชอร์) และแซนด์แมน มีเรื่องราวมากกว่าที่เราเคยรู้กันมาล่ะ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าผู้มอบของขวัญ ไข่ เงินและความฝันเป็นมากกว่าที่เราคาดคิด และใน “Rise of the Guardians” พวกเขาก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ซะด้วยสิ! ตัวละครจากเทพนิยายสมัยเด็กเหล่านี้ที่เป็นอมตะ แข็งแกร่งและพลิ้วไหว ได้รับมอบหมายให้ปกป้องความไร้เดียงสาและจินตนาการของเด็กๆ ทุกวัยอย่างเต็มพลังความสามารถ เมื่อภัยร้ายวางแผนจะขจัดผู้พิทักษ์เหล่านี้ให้หายไปจากโลกด้วยการพรากความหวังและความฝันจากพวกเด็กๆ ผู้พิทักษ์ที่เป็นที่รักเหล่านี้จึงต้องอาศัยความช่วยเหลือจากแจ็ค ฟรอสต์ (คริส ไพน์) ผู้พิทักษ์จำยอม ผู้อยากจะมีความสุขกับวันหิมะโปรยปรายมากกว่าการกอบกู้โลก

จากซอกหลืบที่ลึกที่สุดของขั้วโลกเหนือ ไปสู่หลังคาเมืองเซี่ยงไฮ้ และเมืองเล็กกระจิ๋วริ๋วในนิวอิงค์แลนด์ รวมไปถึงดินแดนไกลโพ้น เหล่าผู้พิทักษ์จะต้องโรมรันครั้งใหญ่กับพิทช์ (จู๊ด ลอว์) ปีศาจฝันร้ายจอมเจ้าเล่ห์ ผู้ซึ่งวิธีการในการยึดครองโลกของเขาคือการกระจายความกลัวไปทั่วโลก และหนทางเดียวที่จะปราบเขาได้คือพลังแห่งศรัทธา…และเวทมนตร์ของผู้พิทักษ์

Tasmanian Devils (2013) ดิ่งนรกหุบเขาวิญญาณโหด [MN-HD]-[เสียง 5.1 : ไทย-อังกฤษ ]-[บรรยาย : ไทย - อังกฤษ] Encode - H.264 - 720p


เรื่องย่อ
ไม่มีอะไรที่อเมริกันทำไม่ได้ นี่คือประโยคบัญญัติชีวิตของ 6 นักดิ่งพสุธาท้าตาย ที่เลือกเป้าหมายถ้าตายลำดับถัดไปของเขาด้วยการโดดจากยอดเขาสีเลือดใน ทัสมาเนีย ยอดเขาที่ไม่เคยมีผู้ใดพิชิต เพราะใต้ยอดเขามีแหน้าผา ป่าดงดิบ และน้ำตก ไม่เคยมีนักดิ่งพสุธาคนไหนรอดชีวิต จากการท้าตายที่ยอดเขานี้ แต่สิ่งที่พวกเขาทั้งหกไม่รู้ก็คือ สาเหตุที่ไม่เคยมีใครรอดชีวิต ไม่ใช่เพราะความอันตรายของหน้าผาแต่เป็นเพราะ วิญญาณร้ายของเหยื่อทุก ๆ รายก็หน้านี้ ไม่ต้องการให้มีใครรอดชีวิตออกไปจากที่นี่ต่างหาก

[Mini-HD] The Conspirator (2011) เปิดปมบงการ สังหารลินคอล์น [720p][Sound:Th+En][Sub:Th+En]


เรื่องย่อ
การกลับมาของผู้กำกับโรเบิร์ต เรดฟอร์ด เจ้าของงานคุณภาพมากมาย กับเรื่องราวของแมร์รี่ เซอร์แรตต์ (โรบิน เพนน์) สตรีเพียงคนเดียวที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนสมรู้ร่วมคิดในการสังหารประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น และเมื่อคนทั้งประเทศหันมาเป็นศัตรูกับเธอ แมร์รี่จึงต้องหันมาพึ่งความช่วยเหลือจากทนายผู้หนึ่งเในการค้นหาความจริงเพื่อปกป้องชีวิตเธอเอง

Lara Croft Tomb Raider 2 : The Cradle of Life / ลาร่า ครอฟท์ ทูม เรเดอร์ กู้วิกฤตล่ากล่องปริศนา -[เสียง ไทย-อังกฤษ ][บรรยาย ไทย-อังกฤษ]


เรื่องย่อ
Lara Croft Tomb Raider 2 : The Cradle of Life / ลาร่า ครอฟท์ ทูม เรเดอร์ กู้วิกฤตล่ากล่องปริศนา -[เสียง ไทย-อังกฤษ ][บรรยาย ไทย-อังกฤษ]
เรื่องย่อ
  กล่องแพนโดร่า ที่ได้ชื่อว่าเป็นที่เก็บสิ่งที่ชั่วร้ายที่สุดเท่าที่โลกเคยรู้จัก ถูกเก็บซ่อนไว้ในทวีปอัฟริกาในบริเวณที่รู้จักกันในชื่อว่า แหล่งกำเนิดชีวิต บัดนี้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับนักล่าสมบัติสาวชื่อก้องโลลาร่า ครอฟท์ (แองเจลิน่า โจลี่) ที่จะต้องเป็นผู้ออกค้นหากล่องที่มีชื่อเสียงก่อนที่มันจะตกไปอยู่ในมือของ นักวิทยาศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบล ดร. โจนาธาน รีสส์ (เซียแรน ไฮนด์ส) ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ลาร่า ต้องหยุดรีสส์ที่ต้องการพลังที่ชั่วร้ายให้ได้ และมีเพียง ลาร่า ครอฟท์ คนเดียวเท่านั้นที่ยืนอยู่ตรงกลางระหว่างการปกป้องชีวิตที่พวกเรารู้จัก หรือไม่ก็ปล่อยให้ รีสส์ บรรลุเป้าหมายสุดท้ายของเขา นั่นก็คือการครอบครองโลก
  ครั้งนี้ ลาร่า ครอฟท์ ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่ สาวนักล่าสมบัติต้องตระเวนไปทั่วโลกในการผจญภัยสุดตื่นเต้นที่นำพาเธอไปสู่ แหล่งอารยธรรมที่งดงามต่างๆ ของโลก อาทิ ฮ่องกง เคนย่า แทนซาเนีย กรีซ และกำแพงเมืองจีน
  พาราเม้าท์ พิคเจอร์สภูมิใจเสนอ ผลงานการร่วมมือกับมูชัวล์ ฟิล์ม คัมปานี แอนด์ บีบีซี เทเลมันเชน โตโฮ-โตวะ ผลงานการสร้างของลอว์เรนซ์ กอร์ดอน/ ลอยด์ เลวิน โดยความร่วมมือกับไอดอส อินเตอร์แอ็คทีฟ ลิมิเต็ด ภาพยนตร์จากฝีมือการกำกับของยาน เดอ บองต์ จากบทภาพยนตร์ของดีน จอร์จาริส และเรื่องโดย สตีเว่น อี เดอ ซูซ่า และ เจมส์ วี ฮาร์ต อำนวยการสร้างโดย ลอว์เรนซ์ กอร์ดอน และ ลอยด์ เลวิน ผู้อำนวยการสร้างบริหารคือ เจเรมี่ ฮีธ-สมิธ โดยนำเค้าโครงเรื่องมาจาก ไอดอส อินเตอร์แอ็กทีฟ ดนตรีประกอบเป็นฝีมือของ อลัน ซิลเวสทรี และ หลุยส์ เอ สตรอลเลอร์ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างร่วม
  Lara Croft Tomb Raider: The Cradle of Life ได้รับการจัดประเภทโดยสมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งสหรัฐอเมริกา ให้เป็นภาพยนตร์เรต PG-13 อันเนื่องจากฉากแอ็กชั่นที่มีความรุนแรงและเนื้อหาที่เกี่ยวพันกับเรื่องเพศ

[MN-HD] LARA CROFT TOME RAIDER [ผลงานแอนเจลิน่า โจลี่][Sound Thai/Eng][Sub Thai/Eng]


เรื่องย่อ
คืนวันหนึ่ง เมื่อดาวเคราะห์สามดวงโคจรมาอยู่ในแนวเดียวกัน ลาร่า ครอฟท์ (แองเจลินา โจลี่) ค้นพบนาฬิกาไขลานลึกลับเรือนหนึ่ง จากท่ามกลางกล่องมากมายที่พ่อผู้จากไปของเธอนำกลับมาบ้าน จากซากโบราณที่เขาขุดพบเมื่อสองทศวรรษที่แล้ว พ่อของเธอคือลอร์ด ครอฟท์ (จอน วอยท์) หลายปีก่อนหน้านี้
พ่อของเธอเล่าให้เธอฟังเรื่ององค์การลับที่เรียกว่า กลุ่มผู้มีความรู้ ซึ่งค้นหานาฬิกาโบราณ ที่เป็นกุญแจเปิดห้วงเวลาและอวกาศ กุญแจนี้มีรูปสามเหลี่ยมลึกลับทำจากโลหะดาวตกแวววาว ถูกใช้เมื่อ 5000 ปีก่อนเพื่อกำจัดศัตรู ถ้าชิ้นส่วนของสามเหลี่ยมสองชิ้นถูกประกอบกันเข้าอีกครั้ง เวลาก็จะหยุด บรรดาบรรพบุรุษจะกลับคืนชีพ และชะตากรรมของมนุษยชาติจะเปลี่ยนแปลงไปชั่วนิรันดร์
ลาร่ามีเวลาเพียง 48 ชั่วโมงกระทั่งดาวเคราะห์ทั้งหมดเรียงตัวกันเป็นแนวเดียว บดบังรัศมีของกันและกันทั้งหมด ซึ่งเป็นเวลาที่กุญแจสามเหลี่ยมนั้นจะเกิดพลังสูงสุด ซึ่งถ้าเธอพลาดเวลานี้ไป ก็ต้องรออีก 5000 ปี
ภาระกิจของเธอทำให้เธอต้องเดินทางไปยังอุโมงค์แสงร่ายรำ ประเทศกัมพูชา อันเป็นที่ซ่อนของครึ่งหนึ่งของสามเหลี่ยม และไปที่วิหารหมื่นเงา ที่ไซบีเรียอันเป็นที่ซ่อนของสามเหลี่ยมอีกครึ่งชิ้น
เวลา 48 ชั่วโมงจะเพียงพอสำหรับลาร่า ครอฟท์หรือไม่ ที่เธอจะเปิดเผยความลึกลับ และกู้จักรวาลนี้ไว้?

[MN-HD] Gia (1998) ภาพยนต์สร้างจากเรื่องจริง (หนังเรต R ของแองเจลิน่า โจลี่) [Soundtrack][SUB: Thai]


เรื่องย่อ
Gia เจีย เป็นภาพยนต์ที่สร้างจากเรื่องราวชีวิตจริง ของนางแบบชื่อดัง ที่มีชีวิตอยู่ ในช่วงปี 1960-1986 ที่ชื่อว่า Gia Marie Carangi เธอเป็นนางแบบที่มีพรสวรรค์สูง เพราะเธอได้บุกเบิกการโพสต์ท่าแนวใหม่ให้กับนางแบบทุกคนบนโลกใบนี้ได้ดำเนิน รอยตาม นั่นก็คือ การโพสต์ท่าโดยมีการเคลื่อนไหวร่างกายอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ Gia ยังเป็นนางแบบโลกคนแรก ที่โพสต์ท่าถ่ายแฟชั่น โดยมีการแสดงออกทางอารมณ์บนใบหน้าและมีการใช้ภาษากาย

[SMN-HD 720p][R+18]Original Sin พิษรักแรงปราถนา(หนังเรต R ของแองเจลิน่า โจลี่)[Soundtrack][No Sub]


เรื่องย่อ
คอร์เนลล์ วูลริช ได้ชื่อว่าเป็นนักเขียนนิยายอาชญากรรมระดับแนวหน้า จุดเด่นในงานของเขาคือ การสะท้อนวังวนแห่งโลกที่ต้องคำสาป โดยพฤติกรรมของตัวละครส่วนใหญ่บางครั้งปราศจากเหตุผลหรือแรงจูงใจอันชัดเจนอื่นใดนอกจากพลังกระตุ้นด้านมืดที่ลึกลับ

สำหรับวูลริช ความรุนแรง ฆาตกรรม และการหักหลังไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นในซอกหลืบของสังคมแห่งคอรัปชั่นอันฟอนเฟะเหมือนนิยายแนวฟิล์มนัวร์เรื่องอื่นๆ แต่อาจเป็นสถานที่ธรรมดาสามัญท่ามกลางสถานการณ์ซึ่งผู้อ่านไม่คาดคิดมาก่อนเลยก็ได้ อันตรายแท้จริงในหนังสือของเขามักเกิดขึ้นจากด้านมืดอันยากเกินควบคุมในใจมนุษย์มากกว่า

Waltz Into Darkness สะท้อนบุคลิกลักษณะข้างต้นได้อย่างชัดเจนผ่านบทบอนนี่ นางเอกของเรื่องซึ่งเป็นตัวละครที่เต็มไปด้วยพฤติกรรมเบี่ยงเบนสุดโต่ง ยากแก่การคาดเดาตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฉากจบเมื่อเธอวางแผนฆ่าสามีอย่างเลือดเย็นด้วยยาเบื่อหนูเพื่อหวังเงินประกันชีวิต แม้สุดท้ายแล้วหลุยส์จะล่วงรู้ความจริงก่อนตายแต่เขาก็ยังยอมให้อภัยเธอ การตัดสินใจดังกล่าวนี้เองทำให้บอนนี่เข้าใจถึงรักแท้อันยิ่งใหญ่ที่เขามีต่อเธอ และที่เธอมีต่อเขาเสมอมาเพียงแต่ไม่กล้าพอจะยอมรับมันจนกระทั่งทุกอย่างสายเกินแก้เสียแล้ว

“ฉันรักเธอ ฉันรักเธอ ได้ยินไหม? เธออยู่ที่ไหนแล้ว? นี่ไงเป็นสิ่งที่เธอต้องการเสมอมา เธอไม่ต้องการมันแล้วหรือ?” บอนนี่ร้องไห้คร่ำครวญขณะหลุยส์กำลังจะลาจากโลก ส่วนด้านนอกตำรวจก็พยายามบุกเข้ามาเพื่อนำตัวเธอไปรับโทษ

ในปี 1969 ผู้กำกับคลื่นลูกใหม่ชาวฝรั่งเศส ฟรังซัวส์ ทรุฟโฟต์ ได้นำนิยายดังกล่าวมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ภายใต้ชื่อ Mississippi Mermaid โดยทอนบุคลิกของบอนนี่ให้ดูแข็งกระด้างน้อยลง เป็นคนดีในเนื้อแท้มากขึ้น แม้จะยังคงความคลุมเครือเอาไว้เช่นเคย ความรักที่เธอมีให้สามีดูชัดเจน น่าเชื่อถือ แต่ขณะเดียวกันมันก็เป็นดาบสองคมส่งผลให้ฉากวางยาพิษนั้นเหลือเชื่อเกินกว่าจะรับได้ อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นสูงสุดเห็นจะเป็นฉากจบซึ่งทรุฟโฟต์ปล่อยให้ตัวเอกทั้งสองเดินเคียงข้างกันไปท่ามกลางหิมะขาวโพลน มุ่งหน้าสู่ชายแดนประเทศสวิสเซอร์แลนด์ มันอาจจะไม่ใช่แฮปปี้เอ็นดิ้งสมบูรณ์แบบ แต่อย่างน้อยทรุฟโฟต์ก็เปิดโอกาสให้แก่ความเป็นไปได้ว่าทั้งสองอาจประสบความสำเร็จในการสานต่อความรักซึ่งสำหรับวูลริชแล้วมันเข้มข้น บริสุทธิ์เกินกว่าจะอยู่รอดบนโลกใบนี้ได้

สามสิบสองปีต่อมา ผู้กำกับชาวอเมริกัน ไมเคิล คริสโตเฟอร์ ได้นำนิยายชิ้นนี้มาตีความใหม่อีกครั้งภายใต้ชื่อ Original Sin โดยเปลี่ยนแปลงเรื่องราวมากมายในหลายส่วนซึ่งส่งผลให้เสน่ห์ของหนังสือ/หนังฉบับเก่าลดความเข้มข้นลง แม้จุดมุ่งหมายหลักด้านเนื้อหาจะยังไม่แตกต่างจากเดิมไปมากนักก็ตาม

การเปลี่ยนแปลงประการสำคัญได้แก่ แรงจูงใจที่แจ่มชัดขึ้นของบอนนี่ (แองเจลิน่า โจลี่) ในการวางยาหลุยส์ (แอนโตนีโอ แบนเดรัส) หนังอธิบายอย่างถี่ถ้วนในหลายฉากก่อนหน้าเมื่อชู้รักของเธอ บิลลี่ (โธมัส เจน) พยายามโน้มน้าวให้บอนนี่เห็นด้วยว่าหญิงโสเภณีเช่นเธอไม่มีวันใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมอื่นใดได้นอกจากโลกมืดแห่งการหักหลังและฆาตกรรม ขณะเดียวกันความพยายามที่จะดึงหลุยส์ลงมาคลุกเคล้าใน ‘โลกของเธอ’ ด้วยการร่วมมือกันโกงวงไพ่ยังจบลงพร้อมกับความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงอีกด้วย สุดท้ายทางออกเดียวที่บอนนี่เหลือก็คือ หันหลังให้แก่ความรักของหลุยส์ ดำเนินแผนตามภารกิจให้เสร็จสิ้น แล้วกลับไปใช้ชีวิตในโลกมืดดังเดิม โดยตัวหนังเองยังได้พยายามนำผู้ชมเข้าไปสัมผัสโลกของเธอในหลายๆฉากที่ถูกแต่งเพิ่มขึ้นมา (เช่น เมื่อเธอล่อหลอกพันเอกหัวงู ตอนเธอไปหาบิลลี่ที่ซ่องก่อนจะกลับมาวางยาสามี หรือการที่เธอเตรียมรับบทลงโทษจากเหล่าผู้ชายซึ่งถูกโกงไพ่อย่างไม่สะทกสะท้าน) เพื่อให้เราเข้าใจสภาพแวดล้อมของชีวิตชนชั้นล่างที่เด็กกำพร้าอย่างบอนนี่เติบโตมามากขึ้น แต่ขณะเดียวกันมันก็ลดความลึกลับซับซ้อนในบุคลิกของเธอลงด้วย

ดังนั้นปมวิกฤติในใจของบอนนี่ซึ่งดึงเธอให้ตัดสินใจวางยาหลุยส์จึงไม่ใช่ความพ่ายแพ้ต่อด้านมืดอันยากจะควบคุมในลักษณะภาพยนตร์ฟิล์มนัวร์ หากแต่เป็นปมความแตกต่างทางชนชั้น และแรงกดดันทางสังคมในรูปแบบนิยายโรแมนซ์ระหว่างชายหญิงต่างฐานะเสียมากกว่า ก่อนจะนำไปสู่ฉากจบทำนองแฮปปี้เอ็นดิ้งเมื่อบอนนี่กับหลุยส์สามารถเอาชีวิตรอดมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจพร้อมกับต่างยอมลงเอยในทางสายกลางด้วยการร่วมมือกันโกงไพ่พวกเศรษฐีทั้งหลาย

ถึงแม้เสียงเล่าเรื่องของบอนนี่จะตอกย้ำคนดูถึงสองครั้งสองคราว่า “นี่ไม่ใช่นิยายรัก (love story) แต่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก (a story about love)” แต่ฉากจบดังกล่าวซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าพลังแห่งความรักสามารถเอาชนะทุกอุปสรรคได้ไม่ว่าจะเป็นความต่างทางชนชั้นหรือแม้กระทั่งโทษประหาร ก็ทำให้ยากที่จะมอง Original Sin เป็นอื่นไปได้นอกจากนิยายรัก

ขณะเดียวกันคริสโตเฟอร์ยังเพิกเฉยต่อ ‘ความเป็นนัวร์’ ของเรื่องราวลงด้วยการลดภาพลักษณ์อันโหดเหี้ยม แข็งกระด้างของบอนนี่ลง แล้วโยนตำแหน่งวายร้ายที่แท้จริงไปให้บิลลี่แทน เขาเป็นตัวละครที่ถูกเพิ่มบทบาทขึ้นมา โดยในหนังฉบับทรุฟโฟต์ซึ่งซื่อสัตย์ต่อตัวนิยายมากกว่านั้นไม่ได้เปิดเผยให้เห็นตัวละครชายผู้สมรู้ร่วมคิดกับบอนนี่ในการฆ่าจูเลีย รัสเซลล์ เราทราบจากเพียงคำบอกเล่าของบอนนี่ในเวลาต่อมาเท่านั้นว่าสุดท้ายแล้วเขาเป็นผู้ได้เงินทั้งหมดของหลุยส์ไปครอง ส่วนวอลเตอร์ ดาวน์สนั้นเป็นนักสืบจริงๆที่เข้ามาทำคดีการหายตัวไปอย่างลึกลับของจูเลีย ซึ่งต่อมาก็ถูกหลุยส์ฆ่าตายเนื่องจากเขาต้องการปกป้องบอนนี่ไม่ให้ถูกจับไปดำเนินคดี ผลจากการหักมุมด้วยการรวมเอาสองตัวละครดังกล่าวมารวมเข้าไว้ด้วยกัน (บิลลี่ปลอมตัวเป็นนับสืบ) ทำให้บอนนี่ดูบริสุทธิ์ผุดผ่องขึ้น จริงอยู่เธอยังคงเป็นนักต้มตุ๋นเลือดเย็น แต่ขณะเดียวกันหนังก็บีบบังคับให้เธอตกอยู่ในฐานะเหยื่อซาดิสท์ของบิลลี่ไปพร้อมๆกันด้วย

คนทั้งสองเติบโตดิ้นรนมาในบ้านเด็กกำพร้า เขาเป็นชายคนแรกของเธอและดูเหมือนจะพยายามใช้พลังทางเพศข่มเหงเธออยู่ตลอดเวลา ความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสองมีลักษณะ sado-masochist ผสมผสานอยู่เป็นนัยยะโดยคนหนึ่งพึงพอใจจากการเป็นผู้กระทำ ส่วนอีกคนชื่นชอบการตกอยู่ในสถานะผู้ถูกกระทำ (master/slave relationship) ดังจะเห็นได้จากพฤติกรรมที่บิลลี่ใช้มีดกรีดบนหลังของบอนนี่ รอยฟกช้ำอื่นๆ หรือการพ่นน้ำลายใส่ปากเธอก่อนจะบังคับให้เธอกลับบ้านไปวางยาหลุยส์

ความหมายแฝงข้างต้นถือเป็นการปรับเปลี่ยนอันชาญฉลาดของคริสโตเฟอร์ในการสะท้อนบุคลิกทำร้ายตัวเองในแนวทาง masochism ของหลุยส์จากเรื่องราวต้นฉบับให้ออกมาเป็นรูปธรรม โดยหลังจากถูกหลอกเอาเงินจนหมดเนื้อหมดตัวแล้ว ชายหนุ่มก็ยังไม่วายเดินตามแรงปรารถนาอันตรายที่เขามีต่อบอนนี่อย่างต่อเนื่องจนสุดท้ายต้องกลายเป็นฆาตกร (หรืออย่างน้อยเขาก็คิดว่าเขาเพิ่งฆ่านักสืบตายไปคนหนึ่ง) และโดนวางยาในเวลาต่อมา การตีความดังกล่าวยังช่วยเชื่อมโยงหลุยส์กับบอนนี่ให้ใกล้เคียง กันขึ้นในฐานะผู้ถูกกระทำ หรือเหยื่อแห่งกิเลสตัณหา ดังจะเห็นได้จากฉากหนึ่งตอนที่บิลลี่ (ในมาดนับสืบ) เดินเข้ามาในบ้านของหลุยส์เพื่อตามหาบอนนี่ ก่อนจะเริ่มลงมือใช้กำลัง ข่มขู่ จนกระทั่งถึงแก่จูบหลุยส์เข้าที่ปาก ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ผู้ชมไม่คาดฝันว่าจะเกิดขึ้น กระนั้นจูบดังกล่าวไม่ได้จงใจแสดงนัยยะรักร่วมเพศใดๆ แท้จริงแล้วมันถูกนำเสนอในเชิงบทลงโทษ หรือ ‘การทำร้าย’ กันเสียมากกว่า ทั้งนี้เพราะสำหรับผู้ชายปกติแล้ว จะมีอะไรน่าอับอาย น่าเจ็บใจเท่าการถูกผู้ชายอีกคนจูบที่ปากเล่า? จากนั้นอีกไม่นานต่อมา (หลังจากบอนนี่บอกให้สามีไปซื้อตั๋วรถไฟ ส่วนเธอจะจัดการกับศพเอง) เราก็จะได้เห็นบิลลี่กระทำย่ำยีบอนนี่ในลักษณะคล้ายคลึงกัน

สำหรับผู้กำกับ ไมเคิล คริสโตเฟอร์ แล้ว ความน่าสะพรึงกลัวที่คอยข่มขู่ตัวเอกของเขาไม่ใช่โลกมืด (noir world) ความรุนแรง ฆาตกรรม หรือแม้กระทั่งความตาย แต่เป็นความมัวเมาในรัก โดยอารมณ์ลุ่มหลง แรงปรารถนาที่ปราศจากการประนีประนอม และพิษไข้แห่งรักต่อผู้หญิงที่หลอกลวงเอาเงินของเขาก่อนจะหายตัวไปอย่างลึกลับได้ชักนำให้ตัวเอกเดินลงสู่หุบเหวแห่งการทำลายตัวเองซึ่งไม่มีวันสิ้นสุด หนทางหลบหนีจากความเจ็บปวดนี้เพียงอย่างเดียวคือ การปฏิเสธความรักดังกล่าวเสีย แต่สุดท้ายเขากลับตัดสินใจวิ่งเข้าหามันราวกับกำลังได้รับความสุขจากการทนทุกข์ทรมาน

หนังเปิดตัวหลุยส์ในมาดชายหนุ่มผู้ไม่ใส่ใจความรักและต้องการแต่งงานกับผู้หญิงที่แข็งแรงเพียงพอจะมีลูกให้เขาได้เท่านั้น แต่ครั้นเมื่อได้ลิ้มลองรสชาติของมันเป็นครั้งแรก เขากลับลุ่มหลงจนกระทั่งพยายามไล่ล่าหามันโดยไม่สนใจว่าจะต้องเสียอะไรไปบ้าง ตรงกันข้าม บอนนี่ผู้ไม่เคยสัมผัสความรักมาก่อนเช่นกันกลับวิ่งหนีมันเรื่อยมาแม้เมื่อได้ค้นพบรักแท้ เพราะเธอกลัวที่จะถูกเปิดเผยด้านมืดภายในและมั่นใจว่าตนเองไม่มีคุณค่าพอสำหรับความงดงามเช่นนั้น ความขัดแย้งระหว่างคนหนึ่งซึ่งวิ่งเข้าหาส่วนอีกคนกลับตั้งหน้าตั้งตาวิ่งหนีออกห่างคือ หนึ่งในเสน่ห์หลักของ Waltz Into Darkness และ Mississippi Mermaid ซึ่งผกผันจากพล็อตในแนวลึกลับตื่นเต้นช่วงต้นเรื่อง ไปสู่บทวิเคราะห์ตัวละคร ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล จนถึงงานวิพากษ์ความรักในตอนท้าย หลังจากบทนักสืบถูกฆ่าตายช่วงกลางเรื่อง ประเด็นสำคัญของหนัง/หนังสือก็ไม่ได้อยู่ที่ว่าหลุยส์กับบอนนี่ (ซึ่งตอนนี้ต่างก็กลายเป็นผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรมไปแล้วทั้งคู่) จะถูกจับได้หรือไม่อีกต่อไป แต่อยู่ที่ว่าพวกเขาจะสามารถทำความเข้าใจกันได้หรือเปล่าต่างหาก อารมณ์ดังกล่าวเกี่ยวกับการที่เริ่มต้นอย่างหนึ่งแล้วไปจบลงตรงอีกจุดที่คนดูคาดไม่ถึงถูกทรุฟโฟต์ถ่ายทอดออกมาเป็นรูปธรรมชัดเจนในฉากหนึ่งของ Mississippi Mermaid เมื่อสองตัวเอกเดินเข้าไปดูหนังเรื่อง Johnny Guitar แล้วกลับพบว่ามันไม่ได้เป็นหนังคาวบอยประเภทยิงกันสนั่นเมืองดังคาด แต่กลับกลายเป็นหนังเกี่ยวกับ ‘ความรู้สึก’ มากกว่า

Original Sin พยายามลดความแรงของจุดหักเหดังกล่าวให้น้อยลงด้วยการเชื่อมต่ออารมณ์ลึกลับ ตื่นเต้นมายังครึ่งเรื่องท้ายผ่านการหักมุมสองสามครั้ง ตัดทอนบทวิเคราะห์ตัวละครในเชิงลึกออก และทรยศต่อโทนหม่นเศร้าของหนังสือ แต่กระนั้นหนังก็ยังคงซื่อสัตย์ต่อสารัตถะเดิมอยู่ไม่น้อยเกี่ยวกับการเปิดแขนต้อนรับความรักแม้มันอาจจะอันตราย รุนแรง และนำมาซึ่งการแปดเปื้อนเพียงใด โดยเขายังได้เพิ่มแง่มุมด้านศาสนาเข้ามาเปรียบเทียบอย่างแนบเนียนอีกด้วยผ่านรายละเอียดของการสารภาพบาประหว่างบาทหลวง (มาริโอ อีวาน มาร์ติเนซ) กับบอนนี่ผู้กำลังรอรับโทษประหารอยู่ในคุกและการเปลี่ยนชื่อหนังมาเป็น Original Sin ซึ่งถือเป็นหลักความเชื่อพื้นฐานของศาสนาคริสต์ ระบุว่ามนุษย์ทุกคนล้วนมีบาปหรือด้านชั่วร้ายติดตัวมาตั้งแต่กำเนิดนับจากวันที่อดัมฝืนคำสั่งพระเจ้าด้วยการกินผลไม้ต้องห้าม ความเชื่อดังกล่าวนี้เองนำไปสู่การไถ่ถอนบาปให้มวลมนุษย์ของพระเยซูด้วยการถูกตรึงบนไม้กางเขน

คริสโตเฟอร์เชื่อว่าเรื่องราวของหลุยส์กับบอนนี่ก็ไม่ต่างจากอดัมกับอีฟ คู่รักผู้ไม่มีความสุข ผู้แปดเปื้อน บิดเบี้ยวจากกิเลสตัณหาและด้านมืด จนกระทั่งถูกสาปให้ต้องเวียนว่ายอยู่ในโลกอันสับสน มืดหม่น น่าหวาดระแวงที่พวกเขาไม่เข้าใจและปราศจากแรงควบคุมใดๆ การเอาตัวรอดในโลกอันมืดมิด (noir world หรือในที่นี้ความสยดสยองแห่งรัก) จะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อคุณยอมสยบต่อชะตากรรมแห่งความรักอันยิ่งใหญ่นั้น ยอมรับว่าแต่ละคนล้วนมีด้านมืดด้านสว่าง ความดีความชั่วผสมผสานอยู่ในตัว และยอมศิโรราบต่อพลังไม่แน่นอนอันยากจะเข้าใจ ยากจะควบคุมของมัน เหมือนดังที่อดัม/หลุยส์ยอมกัดแอปเปิ้ล/ดื่มกาแฟผสมยาพิษเพื่อพิสูจน์ความรักต่ออีฟ/บอนนี่ ณ เวลานั้นความตายหาใช่เรื่องยิ่งใหญ่อีกต่อไปเพราะความสุขใจที่ได้คืนมานั้นมันช่างมากล้นจนเกินคุ้ม
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...